10 ข้อน่าสนใจ ราชันแห่งการเก็งกำไรเจสซี ลิเวอร์มอร์: ประวัติย่อ Jesse Livermore, also known as the “Speculator King,”

เจสซี ลิเวอร์มอร์ ตอนตายหมดตัวจริงหรือ? เคยล้มละลายกี่ครั้ง? รวยที่สุดมีเงินเท่าไหร่? มาหาคำตอบกันในบทความนี้

เจสซี ลอริสตัน ลิเวอร์มอร์ (Jesse Lauriston Livermore) เกิดในปี 1877 เป็นนักเทรดหุ้นชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เขาเริ่มต้นชีวิตในฐานะเด็กติดกระดานในบริษัทโบรกเกอร์ Paine Webber ในบอสตันเมื่ออายุ 14 ปี และด้วยความสามารถและความขยันในการศึกษาตลาดหุ้น เขาสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองอย่างรวดเร็ว

ลิเวอร์มอร์เป็นที่รู้จักในฐานะนักเทรดที่เก่งกาจในการทำกำไรจากการตกของตลาด (bear market) เขาสร้างรายได้มหาศาลจากการขายชอร์ตในช่วงตลาดหุ้นตกในปี 1929 แต่เขาก็มีช่วงเวลาที่ล้มเหลวอย่างหนักเช่นกัน เขาเคยสูญเสียเงินทั้งหมดไปหลายครั้ง และในช่วงท้ายของชีวิตเขาประสบกับความผิดหวังและความเครียดอย่างมาก

ในปี 1940 ลิเวอร์มอร์ฆ่าตัวตายในห้องแต่งตัวของโรงแรม Sherry-Netherland ในแมนฮัตตัน เขาเขียนจดหมายลาตายถึงภรรยาของเขา Harriet โดยกล่าวว่าเขาเหนื่อยกับการต่อสู้ และไม่สามารถทำต่อไปได้อีกแล้ว

แม้ว่าชีวิตของเจสซี ลิเวอร์มอร์ จะเต็มไปด้วยความผันผวนและความทุกข์ แต่เขาก็เป็นหนึ่งในนักเทรดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และเรื่องราวของเขายังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเทรดรุ่นหลังๆ

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับเจสซี ลิเวอร์มอร์

1. นักเทรดส่วนใหญ่คุ้นเคยกับหนังสือการเทรดที่โด่งดังที่สุดตลอดกาล “Reminiscences of a Stock Operator” โดย Edwin Lefèvre ซึ่งเล่าเรื่องราวของชีวิต Livermore ผ่านตัวละครสมมติ แต่ไม่กี่คนที่รู้ว่าเขาเขียนหนังสือการเทรดใกล้ช่วงท้ายของชีวิตชื่อ “How I Trade in Stocks” ซึ่งไม่ได้รับความนิยมในการตีพิมพ์เนื่องจากช่วงเวลาที่ตรงกับสงครามโลกครั้งที่ 2.
2. เมื่อ “วันอังคารดำ” เกิดขึ้นในวันที่ 29 ตุลาคม 1929 และตลาดหุ้นตก Livermore ทำเงินได้ $100 ล้านดอลลาร์จากการขายชอร์ต.
3. ในปี 1927 โจรสองคนบุกเข้าไปในบ้านของ Livermore และจับตัวเขากับภรรยาเป็นตัวประกันโดยใช้ปืน.
4. ดาราหนังสำหรับผู้ใหญ่ Brandi Love ซึ่งถูกไล่ออกจากการประชุมอนุรักษ์นิยมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเหลนของนักเทรดในตำนาน Jesse Livermore ชื่อจริงของเธอคือ Tracey Lynn Livermore.
5. Jesse Livermore มีลูกชายชื่อ Jesse Livermore Jr. และหลานชายชื่อ Jesse Livermore III.
6. Jesse Livermore Sr. ไม่ได้ไปงานแต่งงานของ Jesse Livermore Jr. แต่เขาซื้อแฟรนไชส์ Pepsi-Cola ในคอนเนตทิคัตให้กับลูกชายเป็นของขวัญ ลูกชายไม่สามารถจัดการแฟรนไชส์ Pepsi-Cola ได้และขายมันเพื่อหลีกเลี่ยงการล้มละลาย.
7. มีความเชื่อกันอย่างแพร่หลายว่า Livermore ตายในฐานะคนจน นี่ไม่เป็นความจริง เขาตั้งกองทุนความไว้วางใจให้กับตัวเองหลังจากที่เขากลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่เป็นคนจนอีกต่อไป ตามหนังสือเกี่ยวกับ Livermore ที่ฉันอ่าน เขาได้มีทรัพย์สินและเงินสดที่ไม่สามารถแตะต้องได้ในช่วงเวลาที่เขาเสียชีวิต รวมเป็นเงินมากกว่า $5 ล้านดอลลาร์.
8. ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 1940 หลังจากเวลา 5:30 น. ไม่นาน Livermore ยิงตัวเองเสียชีวิตด้วยปืน Automatic Colt Pistol ในห้องแต่งตัวของโรงแรม Sherry-Netherland ในแมนฮัตตัน ซึ่งเป็นที่ที่เขามักจะไปดื่ม ตำรวจพบจดหมายลาตาย 8 หน้า เขียนด้วยลายมือขนาดเล็กในสมุดหนังส่วนตัวของ Livermore จดหมายนั้นเขียนถึง Harriet ภรรยาของ Livermore (ซึ่ง Livermore เรียกชื่อเล่นว่า “Nina”) และมีใจความว่า “Nina ที่รัก: ฉันช่วยไม่ได้ สิ่งต่างๆ แย่ลงกับฉัน ฉันเหนื่อยกับการต่อสู้ ฉันทำต่อไปไม่ได้แล้ว นี่คือทางออกเดียว ฉันไม่คู่ควรกับความรักของคุณ ฉันล้มเหลว ฉันขอโทษจริงๆ แต่นี่คือทางออกเดียวสำหรับฉัน รัก Laurie”.
9. Jesse Livermore Jr. ลูกชายของเขาเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายในปี 1975 หลานชายของเขา Jesse Livermore III ก็ฆ่าตัวตายเช่นกัน.
10. ภาพด้านล่างคือภาพของ Jesse Livermore และ Nina ภรรยาของเขาที่ Stork Club ในนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 1940 น้อยกว่า 24 ชั่วโมงก่อนที่อดีต “เด็กอัจฉริยะแห่งวอลล์สตรีท” จะยิงตัวเองเสียชีวิต Donald Arden ช่างภาพของคลับ ขอให้ Livermore ถ่ายรูปกับเขา Arden กล่าวว่า Livermore ตอบว่า “ไม่เลย แต่เป็นภาพสุดท้ายที่คุณจะถ่าย เพราะพรุ่งนี้ฉันจะไปพักผ่อนนานๆ”

เจสซี ลิเวอร์มอร์มีมูลค่าสุทธิที่เคยสูงถึง $100 ล้านดอลลาร์ ในช่วงปี 1929 ซึ่งเทียบเท่ากับ $1.5 พันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน

รวยกี่ครั้ง:

1. ลิเวอร์มอร์ทำเงินได้ $1 ล้านดอลลาร์จากการขายชอร์ตในช่วง Panic of 1907
2. เขาทำเงินได้ $100 ล้านดอลลาร์จากการขายชอร์ตในช่วงตลาดหุ้นตกในปี 1929

ล้มละลายกี่ครั้ง:

1. ลิเวอร์มอร์สูญเสียเงินทั้งหมดและล้มละลายครั้งแรกเมื่อพยายามควบคุมตลาดฝ้าย ในปี 1916
2. เขาล้มละลายอีกครั้งในช่วงทศวรรษที่ 1930 หลังจากสูญเสียทรัพย์สินทั้งหมด

ตอนตายเหลือเงินเท่าไหร่:
ในช่วงเวลาที่เขาเสียชีวิต ลิเวอร์มอร์มีทรัพย์สินและเงินสดที่ไม่สามารถแตะต้องได้รวมมากกว่า $5 ล้านดอลลาร์

สอนเทรดหุ้นสอนเล่นหุ้นหนังสือหุ้น แนะนำ โดย 100 เทรดเดอร์อาชีพ ที่เก่งที่สุดในโลก

ฝาก เพจหุ้น ออกจากงานประจำ มาสรุปหนัง & เล่นเทรดหุ้น  ติดตามกัน จะได้ไม่พลาดข้อมูลดีๆ ^^