หนังสือหุ้น vi เล่มไหนดี ถ้าหาใน pantip ไม่เจอ บทความนี้มีคำตอบ
หนังสือหุ้น ที่จะแนะนำ การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นศิลปะที่ต้องอาศัยทั้งความรู้และกลยุทธ์ที่ถูกต้อง การเรียนรู้จากบุคคลที่ประสบความสำเร็จและมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนอย่าง Warren Buffett เป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการพัฒนาตนเองในด้านการลงทุน Warren Buffett ผู้ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ได้แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ผ่านการแนะนำหนังสือที่เขาเห็นว่ามีคุณค่าและช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในตลาดหุ้นและกลยุทธ์การลงทุน
บทความนี้ได้รวบรวมหนังสือหุ้น vi 21 เล่มที่ Warren Buffett แนะนำ ให้ความรู้ครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานของการลงทุน การวิเคราะห์บริษัท การประเมินมูลค่า ไปจนถึงปรัชญาและจิตวิทยาการลงทุน หนังสือแต่ละเล่มไม่ได้เพียงแค่ให้ข้อมูลหรือกลยุทธ์วิธีการลงทุน แต่ยังชี้ให้เห็นถึงวิธีคิดและหลักการที่มีความสำคัญในการประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งนักลงทุนมือใหม่และผู้ที่มีประสบการณ์ เพื่อเสริมสร้างความรู้และแรงบันดาลใจในการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
1.Bull!
“[A book] that investors can learn much from.” – Warren Buffett
“Bull!” เป็นหนังสือที่เขียนโดย Maggie Mahar ซึ่งนำเสนอเรื่องราวและวิเคราะห์ปรากฏการณ์ตลาดหุ้นที่เติบโตอย่างรวดเร็วในสหรัฐอเมริกาช่วงปี 1982 ถึงปี 2000 หนังสือเล่มนี้เจาะลึกถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ และบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดหุ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
เนื้อหาของ “Bull!” แบ่งออกเป็นหลายบทที่สำรวจประเด็นที่เกี่ยวข้องกับวัฏจักรของตลาดหุ้น โดย Mahar อธิบายถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเงินที่ส่งผลต่อการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้น รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนและพฤติกรรมของนักลงทุนที่มีผลกระทบต่อความผันผวนของตลาด
หนังสือยังสัมผัสถึงบทบาทของผู้บริหารบริษัท นักลงทุน และนักวิเคราะห์ที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น รวมถึงวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ฟองสบู่ดอทคอม (Dot-Com Bubble) ที่นำไปสู่การปรับตัวครั้งใหญ่ของตลาด
โดยรวมแล้ว “Bull!” เป็นหนังสือที่นำเสนอภาพรวมและการวิเคราะห์เจาะลึกเกี่ยวกับตลาดหุ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ ซึ่งช่วยให้ผู้อ่านสามารถเรียนรู้จากอดีตเพื่อทำความเข้าใจตลาดการเงินในปัจจุบันและอนาคต
2.Common Sense on Mutual Funds
“Cogent, honest, and hard-hitting. A must read for every investor.” – Warren Buffett
“Common Sense on Mutual Funds” เขียนโดย John C. Bogle ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของบริษัท Vanguard Group หนังสือเล่มนี้มุ่งเน้นให้ความรู้และข้อคิดเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวม โดย Bogle ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการลงทุนอย่างมีสติและใช้หลักการที่เรียบง่าย
เนื้อหาของหนังสือกล่าวถึงข้อดีและข้อเสียของกองทุนรวมต่าง ๆ โดย Bogle แนะนำให้นักลงทุนเน้นการลงทุนในกองทุนดัชนี (Index Funds) เนื่องจากกองทุนเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายต่ำและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว เขายังวิจารณ์ถึงการจัดการกองทุนแบบแอคทีฟ (Active Management) ที่มักจะมีค่าใช้จ่ายสูงและไม่สามารถเอาชนะตลาดได้อย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนั้น Bogle ยังอธิบายถึงหลักการพื้นฐานในการจัดพอร์ตการลงทุน การกระจายความเสี่ยง และการจัดการค่าใช้จ่ายในการลงทุน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีเหตุผลและคำนึงถึงผลประโยชน์ในระยะยาว
สรุปแล้ว “Common Sense on Mutual Funds” เป็นหนังสือที่แนะนำให้นักลงทุนทุกระดับได้เข้าใจและตระหนักถึงหลักการการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ โดยเน้นการลงทุนที่คุ้มค่าและยั่งยืนในระยะยาว
3.Common Stocks and Uncommon Profits หุ้นสามัญกับกำไรที่ไม่สามัญ
“I am an eager reader of whatever [this author] has to say, and I recommend him to you.” – Warren Buffett
“Common Stocks and Uncommon Profits” เขียนโดย Philip A. Fisher เป็นหนังสือที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการการลงทุน โดย Fisher นำเสนอแนวทางการลงทุนที่มุ่งเน้นการวิเคราะห์เชิงคุณภาพเพื่อค้นหาหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโตสูง
หุ้นสามัญกับกำไรที่ไม่สามัญ หนังสือเล่มนี้เน้นถึงวิธีการค้นหาและเลือกหุ้นที่ดีโดยการเข้าใจธุรกิจอย่างละเอียด Fisher อธิบายถึงการวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ เช่น การเติบโตของรายได้ในอดีต ความสามารถในการแข่งขันในตลาด การลงทุนในวิจัยและพัฒนา และศักยภาพของทีมผู้บริหาร ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่เขาเรียกว่า “Scuttlebutt Method” หรือการรวบรวมข้อมูลจากการสอบถามผู้อื่นเกี่ยวกับบริษัท
Fisher เชื่อในหลักการของการลงทุนระยะยาว โดยเขาแนะนำให้นักลงทุนถือหุ้นของบริษัทที่แข็งแกร่งและมีโอกาสเติบโตในระยะยาว โดยต้องอาศัยความอดทนและการเข้าใจอย่างลึกซึ้งในตัวธุรกิจที่เลือกลงทุน
ในสรุป “Common Stocks and Uncommon Profits” ส่งเสริมแนวคิดที่ว่าการลงทุนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้มาจากการพยายามจับจังหวะตลาด แต่จากการเลือกหุ้นอย่างรอบคอบโดยใช้การวิเคราะห์เชิงลึกและข้อมูลที่มีคุณภาพ นักลงทุนควรมีวินัยและแผนการลงทุนที่ชัดเจนเพื่อให้สามารถทำกำไรได้ในระยะยาว
4.Investing Between the Lines เลือกหุ้นอย่างชาญฉลาด แค่อ่านขาดซีอีโอ
Warren Buffett recommended this book in his 2012 Annual Letter.
“Investing Between the Lines” เลือกหุ้นอย่างชาญฉลาด แค่อ่านขาดซีอีโอ เขียนโดย L.J. Rittenhouse เป็นหนังสือที่ช่วยให้นักลงทุนเรียนรู้วิธีการอ่านและวิเคราะห์รายงานประจำปีและข้อความจากผู้บริหารของบริษัทในการประเมินศักยภาพการลงทุน หนังสือเล่มนี้เน้นการใช้ “ภาษาวิเคราะห์” เพื่อค้นหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กร ความซื่อสัตย์ของผู้บริหาร และสุขภาพทางการเงินของบริษัท
Rittenhouse แนะนำให้ผู้อ่านมองหาความโปร่งใสในการสื่อสารจากบริษัท โดยบริษัทที่มีการสื่อสารอย่างเปิดเผยและซื่อสัตย์มักจะเป็นบริษัทที่มีการบริหารจัดการที่ดีและมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ หนังสือยังกล่าวถึงการระวังสัญญาณเตือนเมื่อบริษัทใช้ภาษาที่คลุมเครือหรือเลี่ยงไม่พูดถึงประเด็นที่สำคัญ
หนังสือเล่มนี้ยังนำเสนอเครื่องมือและเทคนิคในการวิเคราะห์ข้อความจาก CEO และ CFO เพื่อช่วยในการตัดสินใจลงทุนอย่างมีข้อมูลและมีเหตุผล Rittenhouse เชื่อว่าความสามารถในการ “อ่านระหว่างบรรทัด” ทำให้นักลงทุนสามารถมองเห็นภาพรวมของบริษัทได้ชัดเจนขึ้น และทำให้เลือกลงทุนได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น
โดยสรุป “Investing Between the Lines” ช่วยให้นักลงทุนพัฒนาทักษะในการวิเคราะห์ข้อความจากบริษัทเพื่อประเมินความเสี่ยงและศักยภาพในการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพและมีสติปัญญา
5.Paths to Wealth Through Common Stocks หุ้นสามัญกับทางสู่ความมั่งคั่ง
“Very good.” – Warren Buffett
“Paths to Wealth Through Common Stocks” หุ้นสามัญกับทางสู่ความมั่งคั่ง เขียนโดย Philip A. Fisher เป็นหนังสือที่ต่อยอดจากผลงานก่อนหน้าของเขา โดยเน้นไปที่แนวทางและวิธีคิดในการสร้างความมั่งคั่งผ่านการลงทุนในหุ้นสามัญ หนังสือเล่มนี้นำเสนอหลักการและปรัชญาการลงทุนที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถระบุและเลือกหุ้นของบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว
Fisher อธิบายถึงการเลือกหุ้นที่มีการเติบโตสูง โดยการทำความเข้าใจในด้านต่าง ๆ ของบริษัท เช่น นวัตกรรม ความสามารถทางการแข่งขัน และการบริหารจัดการที่มีวิสัยทัศน์ เขาเน้นความสำคัญของการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ ซึ่งรวมถึงการพิจารณาการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และตลาดใหม่ที่บริษัทมีเป้าหมาย
นอกจากนี้ หนังสือยังกล่าวถึงความสำคัญของการลงทุนระยะยาว โดยแนะนำให้นักลงทุนถือหุ้นในบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีโอกาสในการสร้างผลกำไรที่สูงในอนาคต Fisher เชื่อว่าแทนที่จะพยายามคาดการณ์ตลาดในระยะสั้น นักลงทุนควรมุ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจธุรกิจและคุณค่าที่แท้จริงของหุ้นที่ถืออยู่
“Paths to Wealth Through Common Stocks” จึงเป็นหนังสือที่ให้คำแนะนำที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการลงทุนด้วยการเน้นการวิจัยและการวิเคราะห์ที่ครอบคลุม เพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างความมั่งคั่งผ่านการลงทุนในหุ้นสามัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6.Poor Charlie’s Almanack
“Poor Charlie’s Almanack” เป็นหนังสือที่รวบรวมปาฐกถา บทความ และข้อคิดจาก Charlie Munger ซึ่งเป็นนักลงทุนผู้มีชื่อเสียงและเป็นคู่หูทางธุรกิจของ Warren Buffett ที่ Berkshire Hathaway หนังสือเล่มนี้เน้นถึงปรัชญาทางธุรกิจและการใช้ชีวิตของ Munger โดยสอดแทรกแนวคิดที่เขาใช้ประสบความสำเร็จในงานลงทุนและธุรกิจ
หนึ่งในหัวใจหลักของหนังสือคือแนวคิดเรื่อง “Latticework of Mental Models” หรือการใช้แบบจำลองทางความคิดจากหลาย ๆ สาขาวิชา เช่น จิตวิทยา เศรษฐศาสตร์ และกฎหมาย เพื่อช่วยในการวิเคราะห์และตัดสินใจ Munger เชื่อว่าการมีความเข้าใจที่หลากหลายเป็นกุญแจสำคัญในการคิดอย่างมีเหตุผลและการมองเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่
นอกจากนั้น หนังสือยังกล่าวถึงคุณค่าในเรื่องของการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การพัฒนามุมมองที่มีเหตุผล และการปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์และมีจริยธรรม Munger ได้แบ่งปันประสบการณ์และบทเรียนที่เขาได้รับตลอดชีวิต เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ในทั้งด้านการทำงานและการใช้ชีวิต
“Poor Charlie’s Almanack” จึงเป็นคู่มือที่เต็มไปด้วยข้อคิดและแรงบันดาลใจสำหรับผู้ที่ต้องการเติบโตทั้งในด้านการเงินและการพัฒนาตนเอง โดยเน้นความสำคัญของการบูรณาการความรู้และการคิดอย่างรอบคอบ
7.Security Analysis
“A road map for investing that I have now been following for 57 years.” – Warren Buffett
“Security Analysis” เขียนโดย Benjamin Graham และ David Dodd เป็นหนังสือที่ถือว่าเป็นหนึ่งในคัมภีร์สำคัญของโลกการลงทุน หนังสือเล่มนี้วางรากฐานและทฤษฎีสำหรับการวิเคราะห์มูลค่าหลักทรัพย์โดยเน้นการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของการลงทุน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามของ “การลงทุนแบบเน้นคุณค่า” หรือ Value Investing
หนังสือเล่มนี้นำเสนอแนวทางในการวิเคราะห์งบการเงินของบริษัท เช่น งบดุล งบกำไรขาดทุน และกระแสเงินสด Graham และ Dodd แนะนำให้นักลงทุนศึกษาปัจจัยพื้นฐานของบริษัทอย่างละเอียดเพื่อระบุถึงมูลค่าที่แท้จริงและเปรียบเทียบกับราคาตลาด เพื่อค้นหาการลงทุนที่มีความปลอดภัยและมีโอกาสในการทำกำไร
อีกแนวคิดสำคัญที่กล่าวถึงคือ “Margin of Safety” หรือส่วนเผื่อความปลอดภัย ซึ่งหมายถึงการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของตลาด
“Security Analysis” นั้นเปี่ยมไปด้วยหลักการและกรณีศึกษาต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้อ่านสามารถประยุกต์ใช้ทฤษฎีเหล่านี้ในโลกแห่งความเป็นจริง หนังสือเล่มนี้จึงเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับนักลงทุนที่ต้องการทำความเข้าใจและฝึกฝนการวิเคราะห์หลักทรัพย์อย่างลึกซึ้ง
หลักสำคัญ 20 ข้อ สรุป รีวิว จาก Security Analysis ไบเบิ้ล VI #ที่ยังไม่มีใครแปล
8.Stress Test
Warren Buffett: “Sensational… Tim’s book will forever be the definitive work on what causes financial panics and what must be done to stem them when they occur.”
“Stress Test” เขียนโดย Timothy F. Geithner เป็นบันทึกประสบการณ์และการทำงานของเขาในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาในช่วงวิกฤตการเงินปี 2008 หนังสือเล่มนี้ให้ภาพรวมของการตอบสนองต่อวิกฤตที่คุกคามระบบการเงินโลก โดยมีการตัดสินใจเชิงนโยบายที่จำเป็นในการป้องกันการล่มสลายทางเศรษฐกิจ
Geithner ได้แบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวของเขาในการจัดการกับสถานการณ์ที่มีความซับซ้อนและความกดดันสูง โดยเขาอธิบายถึงมาตรการต่าง ๆ ที่ถูกนำมาใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน เช่น การอัดฉีดเงินช่วยเหลือและการฟื้นฟูความเชื่อมั่นในสถาบันการเงิน
หนังสือยังสำรวจถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่เป็นรากฐานของวิกฤตครั้งนี้ รวมถึงบทเรียนที่ได้เรียนรู้ในการเตรียมความพร้อมรับมือกับวิกฤตในอนาคต Geithner ได้เสนอมุมมองเกี่ยวกับความสำคัญของการมีระบบควบคุมและการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนความจำเป็นในการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศ
“Stress Test” ให้ผู้อ่านสัมผัสถึงความซับซ้อนของการจัดการวิกฤตการเงินและความท้าทายในการดำเนินนโยบายที่ส่งผลต่ออนาคตของเศรษฐกิจโลก โดยผ่านสายตาของผู้ที่อยู่ในแนวหน้าในการตัดสินใจ
9.Supermoney
“In this book, [the author] says I like baseball metaphors. He’s right.” – Warren Buffett
“Supermoney” เขียนโดย Adam Smith (นามปากกาของ George Goodman) เป็นหนังสือที่สำรวจโลกของการเงินและการลงทุนในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ 1970 หนังสือเล่มนี้ให้ภาพเกี่ยวกับบุคคลสำคัญในวงการการเงินและกลยุทธ์ที่พวกเขาใช้ในการสร้างความมั่งคั่ง
Smith นำเสนอแนวคิดของ “Supermoney” ซึ่งหมายถึงผลกำไรและอิทธิพลที่เกินกว่าการลงทุนปกติทั่วไป เขาได้วิเคราะห์การทำงานของกองทุนรวม นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนเอกชน ซึ่งประสบความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์ที่เฉียบแหลมและการจัดการพอร์ตการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ
หนังสือยังได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาดการเงินและผลกระทบที่มีต่อวิธีการลงทุนของนักลงทุนสมัยใหม่ นอกจากนี้ Smith ยังได้สะท้อนถึงบทบาทของความเสี่ยง จิตวิทยาการลงทุน และความสำคัญของการตัดสินใจที่มีข้อมูลรองรับ
“Supermoney” ไม่เพียงแค่นำเสนอเรื่องราวและบุคคลที่น่าสนใจในวงการการเงิน แต่ยังชี้ให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงในตลาด ซึ่งยังคงมีความเกี่ยวข้องกับโลกการเงินในปัจจุบัน หนังสือเล่มนี้จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่าสำหรับผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์และพัฒนาการของการลงทุน
10.The Clash of the Cultures
Warren Buffett: “I recommend The Clash of the Cultures by Jack Bogle”
“The Clash of the Cultures” เขียนโดย John C. Bogle เป็นหนังสือที่วิพากษ์วิจารณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวัฒนธรรมการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนผ่านจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่าและระยะยาวไปสู่การเก็งกำไรและการมุ่งเน้นในระยะสั้น
Bogle กล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อการลงทุนถูกครอบงำโดยพฤติกรรมที่ไม่ได้มุ่งเน้นที่ผลประโยชน์ในระยะยาวของนักลงทุน แต่กลับกลายเป็นการแสวงหากำไรอย่างรวดเร็วและการซื้อขายที่มีความถี่สูง เขาเตือนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมุ่งเน้นในระยะสั้น ซึ่งรวมถึงค่าธรรมเนียมที่สูงและการลดทอนผลตอบแทนในระยะยาว
หนังสือเล่มนี้ยังเน้นถึงความสำคัญของการรักษาค่านิยมดั้งเดิมของการลงทุน เช่น ความซื่อสัตย์ ความโปร่งใส และความมุ่งมั่นในการสร้างคุณค่าให้กับนักลงทุน Bogle ส่งเสริมการลงทุนในกองทุนดัชนี ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่ำและมีแนวโน้มที่จะสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอกว่าในระยะยาว
“The Clash of the Cultures” จึงเป็นการเรียกร้องให้นักลงทุนและอุตสาหกรรมการลงทุนกลับไปมุ่งเน้นที่หลักการพื้นฐานที่สร้างความมั่นคงและความยั่งยืนให้กับการลงทุน ในโลกที่มักจะถูกล่อลวงให้ไล่ตามผลประโยชน์ระยะสั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ
11.The Essays of Warren Buffett คมปัญญา วอเร็น บัฟเฟตต์
“The Essays of Warren Buffett” คมปัญญา วอเร็น บัฟเฟตต์ เป็นหนังสือที่รวบรวมจดหมายและบทความที่ Warren Buffett เขียนถึงผู้ถือหุ้นของบริษัท Berkshire Hathaway ตลอดหลายปี โดยหนังสือเล่มนี้รวบรวมและเรียบเรียงโดย Lawrence Cunningham เพื่อให้อ่านง่ายและเข้าใจหลักการลงทุนของ Buffett ได้อย่างลึกซึ้ง
หนังสือแบ่งออกเป็นหัวข้อหลัก ๆ ที่ครอบคลุมแนวคิดการลงทุนที่สำคัญของ Buffett เช่น การลงทุนระยะยาว การเน้นคุณค่า การบริหารจัดการบริษัท และการพิจารณาความเสี่ยง Buffett อธิบายถึงหลักการของการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง (Value Investing) และความสำคัญของการรู้จักบริษัทและตลาดที่ลงทุน
นอกจากนี้ เขายังเน้นถึงความสำคัญของการมีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และความซื่อสัตย์ในการสื่อสารกับผู้ถือหุ้น หนังสือเล่มนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงวิธีคิดที่เป็นระบบและการตัดสินใจทางธุรกิจที่มีเหตุผลของ Buffett
“The Essays of Warren Buffett” เป็นแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่าสำหรับนักลงทุนและผู้ที่สนใจในแนวคิดและปรัชญาการลงทุนที่ทำให้ Buffett กลายเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก
สรุป 20 สาระสำคัญ&รีวิว หนังสือ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เขียนเอง
12.The Great Crash 1929
“A wonderful book.” – Warren Buffett
“The Great Crash 1929” เขียนโดย John Kenneth Galbraith เป็นหนังสือที่วิเคราะห์และอธิบายเหตุการณ์วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในปี 1929 ซึ่งนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในทศวรรษที่ 1930 หนังสือเล่มนี้พยายามทำความเข้าใจสาเหตุและผลกระทบของการล่มสลายของตลาดหุ้นในสหรัฐฯ
Galbraith ได้สำรวจปัจจัยต่าง ๆ ที่นำไปสู่วิกฤตครั้งนี้ โดยรวมถึงการเก็งกำไรที่สูงเกินไป ความเหลื่อมล้ำในการกระจายรายได้ ความอ่อนแอในโครงสร้างเศรษฐกิจ และการขาดการควบคุมตลาด นอกจากนี้ เขายังได้ชี้ให้เห็นถึงบทบาทของกลไกการเงินที่ไม่เสถียรและการทุจริตในวงการธุรกิจ
หนังสือเน้นถึงบรรยากาศของความมั่นใจที่เกินขึ้นในหมู่นักลงทุนก่อนที่ตลาดจะล่มสลาย และการตอบสนองที่ล่าช้าจากภาครัฐและธนาคารกลาง อีกทั้งยังวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมที่ยาวนานหลังจากการล่มสลาย
“The Great Crash 1929” เป็นหนังสือที่ไม่เพียงแค่บันทึกประวัติศาสตร์ของวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ แต่ยังเสนอข้อคิดและบทเรียนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในอนาคต เป็นหนังสือที่สำคัญสำหรับผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจและการเงิน
13.The Intelligent Investor คัมภีร์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
“I obviously recommend, first and foremost, [this book]. Considered to be the ‘Bible of Value Investing.'” – Warren Buffett
“The Intelligent Investor”คัมภีร์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เขียนโดย Benjamin Graham เป็นหนังสือคู่มือการลงทุนที่ถือว่าเป็นหนึ่งในหนังสือที่ทรงอิทธิพลที่สุดสำหรับนักลงทุนทั่วโลก หนังสือเล่มนี้มุ่งเน้นไปที่การลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) ซึ่งเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง
Graham แนะนำให้นักลงทุนมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทและมองหาการลงทุนที่มี “Margin of Safety” หรือส่วนเผื่อความปลอดภัย ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน นอกจากนี้ เขายังแนะนำการสร้างพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายและมีการกระจายความเสี่ยง
หนังสืออธิบายถึงความสำคัญของวิธีคิดระยะยาว ความอดทน และการหลีกเลี่ยงการทำตามอารมณ์ตลาด Graham ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดการจิตวิทยาการลงทุน รวมถึงการหลีกเลี่ยงการเก็งกำไรและการหลงเชื่อข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง
“The Intelligent Investor” เน้นการลงทุนที่มีข้อมูลรองรับและการตัดสินใจที่มีเหตุผล Graham เชื่อว่าผู้ที่ลงทุนด้วยความรู้และมีระเบียบวินัยสามารถประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว หนังสือเล่มนี้ยังได้ให้หลักการและแนวคิดที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งนักลงทุนมือใหม่และมืออาชีพ
10 บทเรียนสำคัญจาก ” The Intelligent Investor” สรุปหนังสือ รีวิว คัมภีร์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
14.The Little Book of Common Sense Investing ลงทุนด้วยสามัญสำนึก
” “”Investors – large and small – should [read this book].”” – Warren Buffett”
“The Little Book of Common Sense Investing” ลงทุนด้วยสามัญสำนึก เขียนโดย John C. Bogle ผู้ก่อตั้ง Vanguard Group เป็นหนังสือที่แนะนำวิธีการลงทุนที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง โดยเน้นไปที่การลงทุนในกองทุนดัชนี (Index Funds)
Bogle ชี้ให้เห็นว่ากองทุนดัชนีมีค่าใช้จ่ายต่ำและมีประสิทธิภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับกองทุนที่มีการบริหารจัดการแบบแอคทีฟ (Active Management) เขาอธิบายว่ากองทุนดัชนีสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดโดยไม่ต้องพยายามคาดการณ์หรือเอาชนะตลาด
หนังสือยังเน้นถึงประโยชน์ของการลงทุนระยะยาวและการไม่ทำตามกระแสตลาด Bogle เชื่อว่าการลงทุนควรจะเน้นที่การสะสมความมั่งคั่งในระยะยาวแทนที่จะพยายามทำกำไรอย่างรวดเร็ว
Bogle ยังได้เน้นถึงความสำคัญของการจัดการต้นทุนและความเสี่ยงในการลงทุน โดยเสนอว่าเมื่อนักลงทุนลดค่าใช้จ่ายในการลงทุน ผลตอบแทนสุทธิก็จะเพิ่มขึ้น
โดยสรุป “The Little Book of Common Sense Investing” เป็นคำแนะนำในการลงทุนที่ยึดหลักความเรียบง่ายและมีวินัย โดยเชื่อว่าการลงทุนในกองทุนดัชนีที่มีต้นทุนต่ำคือวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว
สรุป 10 Keys หนังสือ “The Little Book of Common Sense Investing”
15.The Most Important Thing นักลงทุนเหนือชั้น
“This is that rarity, a useful book.” – Warren Buffett
“The Most Important Thing” นักลงทุนเหนือชั้น เขียนโดย Howard Marks ผู้ก่อตั้งและประธานร่วมของ Oaktree Capital Management เป็นหนังสือที่รวบรวมหลักคิดและแนวทางในการลงทุนอย่างชาญฉลาด Marks แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ที่สะสมมาเพื่อช่วยให้นักลงทุนเข้าใจปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจลงทุน
หนังสือเน้นที่ความสำคัญของการจัดการความเสี่ยง การวิเคราะห์รอบคอบ และการคิดอย่างเป็นระเบียบ Marks เชื่อว่าการตระหนักถึงความเสี่ยงและการป้องกันคือกุญแจสู่ความสำเร็จในการลงทุน นอกจากนั้น เขายังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการประเมินมูลค่าทรัพย์สินโดยการพิจารณาจากภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงในตลาด
Marks ยังอธิบายถึงความสำคัญของความอดทนและความสามารถในการยึดมั่นในแนวทางการลงทุนที่ถูกต้อง แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง การทำความเข้าใจและหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาด รวมถึงการมองเห็นโอกาสในช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอนคือส่วนสำคัญของความสำเร็จในระยะยาว
“The Most Important Thing” มอบบทเรียนและแนวคิดทางการลงทุนที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในทุกสถานการณ์ตลาด สร้างความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับวิธีคิดและการตัดสินใจที่แตกต่างจากนักลงทุนทั่ว ๆ ไป
16.The Most Important Thing Illuminated แก่นการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
“When I see memos from [this author] in my mail, they’re the first thing I open and read. I always learn something, and that goes double for his book.” – Warren Buffett
“The Most Important Thing Illuminated” แก่นการลงทุนแบบเน้นคุณค่า เขียนโดย Howard Marks เป็นหนังสือที่ขยายและอธิบายแนวคิดการลงทุนที่สำคัญจาก “The Most Important Thing” ด้วยเนื้อหาที่ได้รับการเสริมคำอธิบายและความคิดเห็นจากนักลงทุนชั้นนำคนอื่น ๆ ซึ่งช่วยให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้นของหลักการการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ
ในหนังสือนี้ Marks เน้นถึงปัจจัยหลายประการที่จำเป็นสำหรับการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ เช่น การมองเห็นและเข้าใจความเสี่ยง การประเมินมูลค่าทรัพย์สินอย่างรอบคอบ และการมีความอดทนในการลงทุน เขาอธิบายถึงความสำคัญของการคิดอย่างมีระเบียบเพื่อประเมินความเป็นไปได้ต่าง ๆ และหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่อาจเสี่ยงเกินไป
Marks ยังเน้นว่าความสำเร็จในการลงทุนต้องอาศัยการตระหนักถึงความซับซ้อนของตลาดและการปรับตัวให้เข้ากับภาวะที่เปลี่ยนแปลง การระมัดระวังและไม่ประมาทในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องพอร์ตการลงทุน
“The Most Important Thing Illuminated” มอบความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับแนวคิดการจัดการความเสี่ยงและวิธีการมองหาความคุ้มค่าในการลงทุน ทำให้หนังสือเล่มนี้เป็นแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่าสำหรับนักลงทุนที่ต้องการพัฒนากลยุทธ์การลงทุนที่แข็งแกร่งและยั่งยืน
17.The Tao of Charlie Munger วิถีเต๋า วิถีมังเกอร์
Warren Buffett: “Charlie Munger is the architect of today’s Berkshire… Berkshire has been built to Charlie’s blueprint.
“The Tao of Charlie Munger” วิถีเต๋า วิถีมังเกอร์ เป็นหนังสือที่รวบรวมปรัชญาและข้อคิดจาก Charlie Munger ซึ่งเป็นนักลงทุนชื่อดังและเป็นคู่หูของ Warren Buffett ที่บริษัท Berkshire Hathaway หนังสือเล่มนี้เขียนโดย David Clark ซึ่งเป็นนักเขียนและนักลงทุนที่มีความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุนของ Munger และ Buffett
เนื้อหาของหนังสือประกอบด้วยคำแนะนำและข้อคิดที่มีคุณค่าเกี่ยวกับการลงทุน การดำเนินชีวิต และการตัดสินใจในธุรกิจ ซึ่งสะท้อนถึงแนวคิดที่ลึกซึ้งและความมีเหตุผลของ Munger โดยได้รวมเอาคำคมและการคิดเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจถึงวิธีการมองโลกและการตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ
Munger มักจะเน้นถึงความสำคัญของการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ความเข้าใจในความเสี่ยง และการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ เขามักจะพูดถึง “mental models” หรือ “แบบจำลองทางความคิด” ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้ในการประยุกต์ใช้ความรู้จากหลาย ๆ สาขาเพื่อแก้ปัญหา
หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงแค่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเรียนรู้จากหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก แต่ยังเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการเพิ่มพูนความรู้และพัฒนาการคิดวิเคราะห์ในชีวิตประจำวัน
18.The Theory of Investment Value
“The Theory of Investment Value” เขียนโดย John Burr Williams เป็นหนังสือที่วางรากฐานสำหรับการประเมินมูลค่าการลงทุน โดยเฉพาะการใช้วิธีการคำนวณมูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดในอนาคต (Discounted Cash Flow – DCF) ซึ่งกลายเป็นเครื่องมือหลักที่ใช้ในการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน
หนังสืออธิบายว่าแท้จริงแล้ว มูลค่าของสินทรัพย์คือมูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต ทั้งนี้ Williams มุ่งเน้นว่าการคำนวณมูลค่าควรทำอย่างระมัดระวังและมีการใช้สมมติฐานที่เหมาะสมเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่ใช้ลดทอนมูลค่า
วิธีการที่ Williams นำเสนอในหนังสือเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนประเมินและตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์อื่น ๆ บนฐานของข้อมูลที่สามารถคาดการณ์ได้
จุดเด่นของหนังสือคือการเชื่อมโยงระหว่างแนวคิดทางทฤษฎีและการประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติ ซึ่งทำให้นักลงทุนสามารถนำหลักการเหล่านี้ไปใช้ในสภาพแวดล้อมการลงทุนปัจจุบันได้ “The Theory of Investment Value” จึงเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในผลงานสำคัญที่ยืนยันถึงความสำคัญของการประเมินมูลค่าเงินในเวลา และการวิเคราะห์ทางการเงินในการตัดสินใจลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ.
19.The Warren Buffett CEO วอเร็น บัฟเฟตต์ ซีอีโอ
“We have as fine an array of operating managers as exists at any company. (You can read about many of them in [this book]).” – Warren Buffett
“The Warren Buffett CEO” วอเร็น บัฟเฟตต์ ซีอีโอ เขียนโดย Robert P. Miles เป็นหนังสือที่สำรวจวิธีการบริหารจัดการและการนำทีมของ CEO ที่ประสบความสำเร็จภายใต้การดูแลของ Warren Buffett ที่ Berkshire Hathaway หนังสือเล่มนี้เน้นไปที่แนวทางและปรัชญาการบริหารที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งในหัวข้อหลักของหนังสือคือการวิเคราะห์ลักษณะของ CEO ที่ Buffett เลือกเข้ามาบริหารบริษัทในเครือ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีความเป็นผู้นำสูง มีความเป็นเจ้าของในงานที่ทำ และสามารถบริหารงานได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องพึ่งพาการควบคุมจากส่วนกลางมากเกินไป
หนังสือยังกล่าวถึงวิธีที่ Buffett บริหารจัดการวัฒนธรรมองค์กร เน้นถึงความซื่อสัตย์ การมองในระยะยาว และการสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นและพนักงาน นอกจากนี้ ยังสำรวจความสัมพันธ์ในการทำงานระหว่าง Buffett กับ CEO ต่าง ๆ ที่ทำให้การบริหารงานมีความราบรื่นและประสบความสำเร็จ
“The Warren Buffett CEO” ให้ภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลที่มีความสามารถในการบริหารจัดการองค์กรในรูปแบบของ Berkshire Hathaway ซึ่งเป็นเส้นทางที่เน้นคุณค่าและความยั่งยืนทางธุรกิจ หนังสือเล่มนี้จึงเป็นประโยชน์ทั้งสำหรับนักลงทุนและนักบริหารที่ต้องการเข้าใจแนวทางการบริหารที่ประสบความสำเร็จ
20.Warren Buffett’s Ground Rules
“If you are fascinated by investment theory and practice, you will enjoy this book.” – Warren Buffett
“Warren Buffett’s Ground Rules” เขียนโดย Jeremy C. Miller เป็นหนังสือที่รวบรวมและสรุปจดหมายที่ Warren Buffett เขียนถึงผู้ถือหุ้นของกองทุน Buffett Partnership ระหว่างปี 1956 ถึง 1970 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่เขาเริ่มต้นบ่มเพาะสไตล์การลงทุนที่ทำให้เขากลายเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ
หนังสือเล่มนี้สรุปหลักการและกฎเกณฑ์การลงทุนที่ Buffett ใช้ในช่วงเริ่มต้นของการทำงาน ซึ่งรวมถึงการเน้นที่มูลค่า หลักการการลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพ เติบโตในระยะยาว และการจัดการพอร์ตการลงทุนด้วยความระมัดระวัง
Miller ได้แบ่งปันบทเรียนสำคัญที่เน้นถึงความสำคัญของการรู้จักตัวเอง การมีความอดทนในการลงทุนนานพอที่จะเห็นผลตอบแทน และการตัดสินใจอย่างมีเหตุผลในสถานการณ์ที่ตลาดมีความผันผวน
นอกจากนี้ ยังมีการเน้นถึงการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไปในการลงทุน เช่น การหลงเชื่อแนวโน้มตลาดหรือการตามกระแสมากเกินไป “Warren Buffett’s Ground Rules” จึงเป็นการรวบรวมข้อคิดและแนวทางการลงทุนที่ทำให้ Buffett เป็นตำนานในวงการการลงทุน ซึ่งยังคงใช้ได้ในปัจจุบัน
21.Where Are the Customers’ Yachts? ไหนล่ะเรือยอชต์ลูกค้า
“The funniest book ever written about investing.” – Warren Buffett
“Where Are the Customers’ Yachts?” ไหนล่ะเรือยอชต์ลูกค้า เขียนโดย Fred Schwed Jr. เป็นหนังสือคลาสสิกที่วิพากษ์วิจารณ์วงการการเงินและการลงทุนในเชิงเสียดสี ด้วยการเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและความจริงใจ Schwed ใช้คำถามในชื่อหนังสือเพื่อสื่อถึงความเหลื่อมล้ำระหว่างความมั่งคั่งของนายธนาคาร นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน กับลูกค้าหรือผู้ลงทุนทั่วไปที่พวกเขาให้บริการ
หนังสือเล่มนี้นำเสนอภาพรวมของวงการการเงินที่มีทั้งข้อดีและข้อบกพร่อง โดย Schwed แสดงให้เห็นถึงปัญหาที่มักเกิดขึ้น เช่น การที่ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินมักจะได้กำไรจากค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่น โดยไม่จำเป็นต้องมีผลลัพธ์ที่ดีให้กับลูกค้า
Schwed ยังกล่าวถึงความไม่แน่นอนในตลาดการเงิน และเตือนให้นักลงทุนเข้าใจถึงความเสี่ยงที่แท้จริงมากกว่าการมุ่งเน้นผลตอบแทนที่น่าตื่นตาตื่นใจ หนังสือสะท้อนถึงความจำเป็นที่จะต้องมีความระมัดระวังและวิจารณญาณในวงการที่เต็มไปด้วยการโฆษณาและคำแนะนำที่อาจไม่จริงใจ
โดยรวม “Where Are the Customers’ Yachts?” ยังคงเป็นข้อคิดที่สำคัญเกี่ยวกับการเริ่มต้นการลงทุนและความเป็นจริงที่หลายคนอาจมองข้ามในวงการการเงิน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์กับนักลงทุนในทุกยุคทุกสมัย
สอนเทรดหุ้นสอนเล่นหุ้นหนังสือหุ้น แนะนำ โดย 100 เทรดเดอร์อาชีพ ที่เก่งที่สุดในโลก
ฝาก เพจหุ้น ออกจากงานประจำ มาสรุปหนัง & เล่นเทรดหุ้น ติดตามกัน จะได้ไม่พลาดข้อมูลดีๆ ^^
